ข้อมูล อบต.
นายวราวุธ กันตีมูล - นายกองค์การบริหารส่วนตำบลออนกลาง<br>โทร. 065-9193272

นายวราวุธ กันตีมูล

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลออนกลาง
โทร. 065-9193272

สายตรงนายก

informationข่าวประชาสัมพันธ์

ประชาสัมพันธ์รณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟม

  • 22 มีนาคม 2566
  • 39 ครั้ง

รณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกและโฟม

ในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นว่ามีปัญหาสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นมากมาย โดยมีสาเหตุมาจากถุงพลาสติก ทั้งปัญหาขยะ ปัญหาโลกร้อน และยังส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำและสัตว์ในระบบนิเวศ เราจะเห็นในข่าวอยู่บ่อย ๆ ว่าพบถุงพลาสติกอยู่ในท้องของเต่าทะเล เป็นสาเหตุให้เต่าทะเลตาย และไม่ใช่แค่เต่าทะเลเท่านั้น ยังมีสัตว์อื่น ๆ กว่า 700 ชนิดที่ตายเพราะกินถุงพลาสติกเข้าไป

 สาเหตุของสิ่งที่น่าเศร้านี้คือถุงพลาสติกที่ไม่ยอมย่อยสลาย ต้องใช้เวลาหลายสิบปีถึงจะสามารถย่อยสลายได้ และเมื่อเราใช้ถุงพลาสติกมากขึ้น ปัญหาเหล่านี้ก็รุนแรงมากขึ้นตามมา เกิดเป็นขยะและมลพิษทุกหนทุกแห่งชนิดที่นับไม่ถ้วน

 ที่ผ่านมาผู้บริโภค 1 คน เฉลี่ยแล้วใช้ถุงพลาสติก 3 ใบต่อวัน ซึ่งส่งผลให้เกิดขยะพลาสติกสูงถึงปีละ 7,000 ล้านใบ และมากถึง 75% ของขยะพลาสติกทั้งหมด เป็นพลาสติกที่ไม่สามารถย่อยสลายได้ ประเทศไทยจึงกลายเป็นประเทศที่ปล่อยขยะพลาสติกลงทะเลมากเป็นอันดับที่ 6 ของโลก คาดว่าปริมาณขยะพลาสติกมีมากถึง 2 แสนล้านใบต่อปี

 สิ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้ในวันนี้คือตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากพิษภัยของพลาสติก และให้ความร่วมมือลดการใช้ถุงพลาสติก ทำได้ง่าย ๆ โดยการใช้ถุงผ้าแทนในการไปซื้อของ เพื่อช่วยลดปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อมในระยะยาว และทำให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้น

ภาชนะที่ใช้สำหรับใส่อาหาร นอกจากจาน ชาม ยังมีโฟม (Foam) ซึ่งเป็นภาชนะที่ผู้จำหน่ายส่วนมากนิยมนำมาใช้เป็นภาชนะบรรจุหรือหีบห่ออาหาร ทั้งอาหารสด ผักสด อาหารพร้อมปรุง และอาหารปรุงสำเร็จ ด้วยเหตุผลที่ว่าซื้อหาได้ง่าย สะดวกในการเปิดรับประทานได้เลย แต่รู้หรือไม่ว่าโฟมที่นำมาบรรจุอาหารเหล่านั้น หากเจอความร้อนจัดจะหลอมละลายจนอาจเกิดสารก่อมะเร็ง "สไตรีน" ออกมาปนเปื้อนในอาหาร เป็นอันตรายต่อสุขภาพและร่างกายอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลย

การใช้โฟมเป็นภาชนะบรรจุอาหารสำเร็จรูปในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ผู้จำหน่ายมักจะใส่อาหารที่มีความร้อนและไขมัน ซึ่งอาจส่งผลให้สารเคมีจากโฟมออกมาปนเปื้อนกับอาหารได้ โดยเฉพาะอาหารประเภทกึ่งสำเร็จรูปที่ต้องนำเข้าไมโครเวฟ เพื่อทำการอุ่นให้ความร้อนแก่อาหารก่อนนำมารับประทาน จึงมีความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคที่จะได้รับสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบของโฟมเข้าสู่ร่างกาย และหากสะสมในปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เนื่องจากการใช้โฟมพลาสติกมาบรรจุอาหารบางชนิดนั้นอาจจะทำให้เกิดปฏิกิริยาปลดปล่อยสารสไตรีน (Styrene) ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์และสัตว์

คุณสมบัติของสารสไตรีนนั้น เป็นสารที่สามารถละลายได้ในน้ำมันและแอลกอฮอล์หรือแม้แต่อาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน เนยแข็งที่บรรจุอยู่ในถาดโฟม ประกอบกับการทิ้งอาหารให้สัมผัสกับภาชนะโฟมเป็นเวลานานจะยิ่งมีการปลดปล่อยสารสไตรีนออกมาปนเปื้อนอาหารได้มากขึ้น ซึ่งหากร่างกายรับสารดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานและการใช้ภาชนะบรรจุอาหารที่ไม่ถูกวิธี ก็อาจส่งผลเสียเป็นอันตรายต่อสุขภาพในอนาคตได้

ข้อมูลจากฝ่ายเฝ้าระวังและพิสูจน์สินค้าและบริการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ดำเนินการทดสอบพิสูจน์โฟมสำหรับบรรจุอาหาร พบว่า ผู้บริโภคอาจมีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับสารเคมีตกค้างจากการปนเปื้อนมากับภาชนะที่ใช้บรรจุอาหารโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยส่วนใหญ่โฟมจะมีส่วนประกอบสำคัญ 2 ชนิด คือ สไตรีน และเบนซีน ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถแพร่กระจายและละลายปนเปื้อนกับอาหารได้เมื่อได้รับหรือสัมผัสกับอาหารที่มีความร้อนสูง

ดังนั้น องค์การบริหารส่วนตำบลออนกลาง จึงขอแนะนำให้ผู้บริโภคเลือกใช้ภาชนะบรรจุอาหารให้ถูกประเภทหลีกเลี่ยงการนำโฟม มาบรรจุอาหารร้อน ไขมันสูง หรือมีความเป็นกรด และหลีกเลี่ยงการอุ่นอาหารในเตาไมโครเวฟ รวมถึงการหันมาใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง กระดาษ กล่องไบโอ ชานอ้อย พลาสติกไบโอ แทนกล่องโฟม ดีกว่าการปล่อยให้ร่างกายถูกทำลายเพราะอันตรายจากสารเคมีทุกวัน

แชร์ข่าวนี้ให้เพื่อน: